Statement on ARVs access for all
Statement on ARVs access for all
July 14th 2004
According to Thai prime minister (PM), Dr.Taksin Shinawatr, announcement to the global community on the opening ceremony of the XV International AIDS Conference on July 11th 2004 that ‘Thailand will provide ARVs to all AIDS patients’ including the command to Government Pharmaceutical Organization (GPO) to produce cheap ARVs and also requested all nations to follow the lead. He furthermore secured the policy to treat IDUs as patients not criminals and to provide safe syringes and needles for prevention of AIDS spreading.
Drug Study Group (DSG) and ally organizations urge Thai PM to urgently implement this policy extensively and to treat the announcement seriously not as careless speech. Otherwise the PM will receive condemn globally as a liar. Thailand will thus be still recognized as leader in providing ARVs to all AIDS patients within the country as well as neighboring country.
Thai government has to ‘do’ and ‘don’t’ the following thing urgently.
1. To promulgate the compulsory licensing of patented ARVs. This can be done without delay since Thai patent law allows the government to do so for health problem solving purposes. Efavirenz is particularly concern in order for Thai GPO to produce cheap new generic ARVs apart from GPO-vir which is expected to be resisted after using for some years or allergic. ARVs are all known to be used with all lifespan.
2. To amend current patent law on the section 46 and 51 in order to comply with TRIPs agreement (paragraph 6 of doha declaration) which was adopted on August 30th, 2003 to allow country to produce all patented drugs in order to solve nation’s health problems and export. Canada has already implemented this clause in May 14th, 2004.
3. Not to include intellectual property rights protection in health and drugs in the agenda for free trade agreement (FTA) negotiation with the US or other countries. Details in the bilateral negotiation on FTA from the US and developed countries namely TRIPs-plus cover beyond multilateral TRIPS agreement. These create high price with patented essential drugs and are burden to the poor. The TRIPs-Plus statement in FTA are:
3.1. The extension of patent life from 20 years to 25 years;
3.2. Introduce new market exclusivity via data exclusivity;
3.3. The limitation on compulsory licensing measure and parallel import blocks the right of generic production
Drug Study Group (DSG)
Thai Network for People Living with HIV/AIDS (TNP+)
Thai NGO Coalition on AIDS (TNCA)
AIDS Access Foundation (ACCESS)
Foundation For Consumer (FFC)
Center for AIDS Rights (CAR)
FTA WATCH-Thai Citizen Sector
แถลงการณ์ การจัดหายาต้านไวรัสฯให้กับผู้ป่วยเอดส์ทุกคน
14 กรกฎาคม 2547
สืบเนื่องจากคำประกาศสัญญาของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อสังคมโลก ในวันเปิดการประชุมเอดส์โลกเมื่อ 11 กรกฎาคม 2547 ว่า ประเทศไทยจะจัดหายาต้านไวรัสเอดส์ให้กับผู้ป่วยทุกคน พร้อมทั้งสั่งให้องค์การเภสัชกรรมผลิตยาต้านไวรัสฯราคาถูก และเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ทำเช่นเดียวกัน ตลอดจนมีนโยบายให้จัดผู้ติดยาเสพย์ติดเป็นผู้ป่วยไม่ใช่อาชญากรและต้องได้รับเข็มฉีดยาที่สะอาด
ดังนั้น กลุ่มศึกษาปัญหายา และภาคีเครือข่ายสมาชิกผู้มีรายนามข้างท้ายนี้ ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนไทย ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจะต้องมีนโยบายและการดำเนินการอย่างจริงจัง มิใช่เพียงวจีกรรม เพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะไม่ถูกสังคมโลกประณามว่าหลอกลวงอีกต่อไป และเพื่อรักษาภาพพจน์ของประเทศไทยในการเป็นประเทศแนวหน้าที่จัดหายาต้านไวรัสเอดส์ให้กับผู้ป่วยทุกคนได้ พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อให้กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นผลสำเร็จ จำเป็นที่รัฐบาลต้องทำและไม่ทำ ในสิ่งต่อไปนี้โดยเร่งด่วน
1.รัฐบาลต้องรีบดำเนินการบังคับใช้สิทธิกับยาที่ติดสิทธิบัตร ซึ่งทำได้ทันทีในขณะนี้ เพราะ พ.ร.บ.สิทธิบัตรไทยเปิดโอกาสให้รัฐบาลใช้มาตรการนี้อยู่แล้ว โดยบังคับใช้สิทธิกับยาติดสิทธิบัตรที่จำเป็นต้องใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุข โดยเฉพาะยาเอฟาเวียร์เรนซ์(Efavirenz) เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตยาสูตรใหม่นอกจากสูตรจีพีโอเวียร์(GPO-vir) ที่มีราคาถูก ทั้งนี้เพราะผู้ป่วยบางคนแพ้ยาสูตร จีพีโอเวียร์ หรือเมื่อใช้ยาสูตรจีพีโอเวียร์ ไประยะเวลาหนึ่งประมาณ 2-3 ปี จะมีการดื้อยาต้องเปลี่ยนสูตรยา และการใช้ยาต้านไวรัสเอดส์นั้นต้องใช้ติดต่อกันตลอดชีวิต การหยุดยาทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อฯ ลดลงอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
2.รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ. สิทธิบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 51 และ มาตรา46 ให้สอดคล้องกับข้อตกลงทริปส์และการสาธารณสุข (วรรค 6 ของปฏิญญาโดฮา) ขององค์การการค้าโลก ซึ่งได้ผ่านการตกลง ณ 30 สิงหาคม 2546 เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตยาติดสิทธิบัตรยาทุกชนิดที่จำเป็นในการแก้ปัญหาสาธารณสุขของประเทศ และสามารถส่งออกช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ ซึ่งประเทศคานาดาได้ทำนำหน้าไปแล้วเมื่อ 14 พฤษภาคม 2547
3.รัฐบาลไทยต้องไม่ยอมให้นำประเด็นเรื่อง การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเรื่องยาเป็นวาระของการเจรจาในการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ(FTA) กับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเนื้อหาข้อเรียกร้องในข้อตกลงเขตการค้าเสรีของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของบรรษัทยาข้ามชาติโดยตรง เป็นการเรียกร้องให้มี “ทริปส์ผนวก” ซึ่งเกินกว่าข้อตกลงพหุภาคี“ทริปส์”ในองค์การการค้าโลก ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคายาต้านไวรัสเอดส์ที่ติดสิทธิบัตรและจำเป็นต้องใช้ มีราคาสูงมาก ประมาณว่าผู้ป่วยต้องจ่ายค่ายาเป็นสิบเท่าของรายได้ขั้นต่ำ และองค์การเภสัชกรรมก็ไม่สามารถผลิตยาชื่อสามัญราคาถูกได้เพราะยาเหล่านั้นติดสิทธิบัตร ข้อเรียกร้องซึ่งเกินกว่า “ทริปส์” คือ
•ขยายอายุการผูกขาดตลาดยายาวนานขึ้นกว่าข้อตกลงพหุภาคีทริปส์ โดยสหรัฐฯ กำหนดขยายอายุสิทธิบัตรยาจาก 20 ปี เป็น 25 ปี
•ขอผูกขาดตลาดยารูปแบบใหม่ด้วยการผูกขาดข้อมูลผลทดสอบเกี่ยวกับยาและผลิตภัณฑ์เคมี (Data exclusivity) 5 ปี
•จำกัดการใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิและการนำเข้าซ้อน มาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการผูกขาดตลาดจากระบบสิทธิบัตรยาที่ระบุในข้อตกลงทริปส์และการสาธารณสุข
กลุ่มศึกษาปัญหายา(กศย.)
เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์ ประเทศไทย(คอท.)
คณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์(กพอ.)
มูลนิธิเข้าถึงเอดส์
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค(มพบ.)
ศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์
กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน
No comments:
Post a Comment